บทความ

การกำจัดขยะเปียก

รูปภาพ
การกำจัดขยะเปียก  ขยะเปียก หมายถึง ขยะจากโรงครัว เป็นเศษผัก เศษผลไม้ เศษอาหาร และน้ำซาวข้าว หากทิ้งทั่วไปจะเป็นตัวทำให้เกิดมลภาวะมากที่สุด การบำบัดก่อนด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) จะเป็นประโยชน์และป้องกันมลพิษได้ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1 น้ำซาวข้าว หากปล่อยทิ้งลงร่องน้ำ แหล่งน้ำเสีย จะเป็นบ่อเกิดของมลภาวะสูงสุด หากมีการบำบัดก่อนทิ้ง จะลดการเกิดมลภาวะได้มากทีเดียว วิธีหมัก น้ำซาวข้าว 1 – 2 ลิตร ผสมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) หัวเชื้อ 10 ซีซี (1 ช้อนโต๊ะ ) และกากน้ำตาลเท่ากัน คนให้ละลาย บรรจุในภาชนะให้เต็ม หมักไว้ 5 – 7 วัน ระยะหมักได้ 2 – 3 วัน ควรเปิดระบายแก๊สออกบ้าง วิธีใช้ - ผสมน้ำ 500 เท่า รดพืชผักเสมอๆ มีคุณภาพเป็นปุ๋ย - ผสมน้ำ 100 เท่า สำหรับซักทำความสะอาดเสื้อผ้า โดยแช่ไว้ก่อน 20 – 30 นาที ขยี้แล้วล้าง 1 น้ำ ก่อนนำไปตาก - ผสมน้ำ 100 – 200 เท่า ล้างจาน ชาม เช็ดถูพื้น ผนัง - ผสมน้ำ 500 เท่า ฉีดพ่น ปรับสภาพอากาศในบ้าน หรือแหล่งที่อากาศไม่บริสุทธิ์ 2 ขยะจากเศษอาหาร หากนำไปทิ้ง จะเป็นเหตุให้เกิดมลภาวะ และเกิดเชื้อโรคได้มา...

การกำจัดขยะ

รูปภาพ
การกำจัดขยะ  ขยะที่กระจัดกระจายบนผิวดิน นำมากองรวมกัน หรือทับถมกันอยู่ ในน้ำ ทำให้เกิดกลิ่น และมีแมลงวัน กำจัดด้วยการใช้ EM ขยาย ผสมน้ำ 500 เท่า ( หากขยะแห้ง ผสมน้ำ 1,000 เท่า ) ฉีดพ่นให้ทั่ว ทุกครั้งที่นำขยะมาทิ้งจะส่งผลให้ 1. ขยะถูกย่อยได้เร็ว 2. แมลงวันลดลง 3. กลิ่นหมดไป 4. น้ำที่ไหลออกไปเป็นน้ำปุ๋ย ขยะที่กองในที่ลุ่ม หรือมีหลุมฝังกลบ ใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) พ่นต่อเนื่อง เมื่อมีการนำขยะมาทิ้งใหม่ 5 – 7 วัน ให้กลบดินบางๆ การกลบดินจะช่วยให้เกิดการหมักและย่อยสลายได้เร็วขึ้น ขยะจะยุบ และถมต่อได้อีกหลายครั้ง การนำขยะไปทำปุ๋ย ต้องหมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) จึงจะไม่เป็นพิษภัย เพราะขยะหลายชนิดมีพิษ ขยะมีพิษ ขุดหลุมฝังอย่างเดียว ก่อนกลบ ควรพ่นจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) ให้ทั่วแล้วกลบ จะไม่เกิดพิษต่อไปได้อีก ขอขอบคุณข้อมูล โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ.

การบำบัดน้ำเสีย

รูปภาพ
การบำบัดน้ำเสีย  ใช้อุปกรณ์สำคัญ 2 อย่าง คือ 1. EM ขยาย - ใช้ฉีดพ่น 1 ลิตร : น้ำ 10 ลูกบาศก์เมตร (1 : 10,000) 2. EM Ball ( ดังโงะ ) - กำจัดโคลนตมใต้ผิวน้ำ และบำบัดน้ำเสียที่มีลักษณะเคลื่อนไหว ในอัตราส่วน 1 ลูก : น้ำ 10 ลูกบาศก์เมตร การบำบัดน้ำเสียจากโรงงาน โรงแรม โรงเลี้ยงสัตว์ โรงอาหาร จะมีแหล่งเกิดน้ำเสียชัดเจน การแก้ปัญหาน้ำเสีย ทำดังนี้ 1. พ่น EM ขยาย หรือใช้ EM Ball ( ดังโงะ ) บำบัดน้ำเสียทั้งหมด ในบ่อน้ำบำบัดและแหล่งเก็บอื่นๆ 2. ผสม EM ขยาย กับน้ำที่ไหลออกจากแหล่งกำเนิดน้ำเสียตลอดเวลา ( เช่น ระบบน้ำหยด ) แล้วน้ำจะไม่เน่าเสีย แต่ควรมีบ่อบำบัดด้วย ขอขอบคุณข้อมูล โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ.

การกำจัดกลิ่น

รูปภาพ
การกำจัดกลิ่น  กลิ่นเกิดจากขยะเน่าเสีย หรือน้ำเสียจากโรงงานและจากแหล่งเลี้ยงสัตว์ กลิ่นเหม็นเหล่านี้ เมื่อสูดดมเข้าไปอาจทำให้สุขภาพไม่สมบรูณ์ เกิดโรคภูมิแพ้ และโรคอื่นๆ ได้ง่าย จึงควรกำจัดหรือบำบัดให้ลดน้อยลง หากบำบัดด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) กลิ่นจะหายไป แต่ยังมีกลิ่นจากมูลสัตว์ กากมัน และอื่นๆ ซึ่งสามารถกำจัดได้ด้วย EM ขยายเช่นกัน ด้วยการผสมน้ำ แล้วฉีดพ่นให้ทั่ว 1. กลิ่นจากบ่อบำบัดน้ำเสียต่างๆ 1. ใช้ EM ขยาย พ่น ราด ทุกๆ 3 วัน 2. นำ EM ขยาย ใส่ภาชนะแล้วปล่อยให้หยดหรือไหลผสมกับน้ำที่ออกจากโรงงานตลอดเวลาที่มีน้ำไหล กลิ่นจะหายไป และน้ำจะดีขึ้น 2. กลิ่นจากแหล่งเลี้ยงสัตว์ 1. ใช้ EM ขยาย ผสมน้ำ รด ฉีด พ่น 3 วัน / ครั้ง จนกว่าจะหาย ( ปกติกลิ่นจะหายภายใน 1 วัน ) 2. ใช้สุโตจู ผสมน้ำ ฉีด พ่น ราด สลับกับข้อ 1 3. กลิ่นจากซากพืช - สัตว์ หรือ ห้องน้ำ - ห้องส้วม ใช้ EM ขยาย ผสมน้ำสะอาด 50 - 200 เท่า พ่น ฉีด ราด กลิ่นจะค่อยๆ จางหายไป ขอขอบคุณข้อมูล โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ.

การใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) กับสิ่งแวดล้อม

รูปภาพ
การใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) กับสิ่งแวดล้อม ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญอย่างยิ่งต่อธรรมชาติ มนุษย์และสัตว์ กระบวนการและเทคนิคของเกษตรเคมีเป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อมและสร้างมลภาวะ ซึ่งวิธีการแก้ไขที่ดีที่สุด คือ การใช้วิธี ธรรมชาติปรับให้คืนสู่ธรรมชาติ รวมทั้งพัฒนา ปรับปรุง ส่วนที่เป็น ธรรมชาติให้เจริญถาวร เกษตรกรสามารถอยู่อย่างพอเพียง พึ่งพาตนเองได้ ร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวและชุมชน นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป การใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) กับสิ่งแวดล้อม แบ่งเทคนิคการใช้ออกเป็นเรื่องย่อยๆ ดังต่อไปนี้ 1. การกำจัดกลิ่น 2. การบำบัดน้ำเสีย 3. การกำจัดขยะ 4. การกำจัดขยะเปียก ขอขอบคุณข้อมูล โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ.

สารบัญวิธีการปลูก/การดูแลรักษาแก้วมังกร

สารบัญวิธีการปลูก/การดูแลรักษาแก้วมังกร วิธีการปลูก แก้วมังกร   วิธีการดูแลรักษาต้นแก้วมังกร   เคล็ดลับการดูแลรักษาต้นแก้วมังกร   การขยายพันธุ์  

การขยายพันธุ์

รูปภาพ
การขยายพันธุ์ วิธีการขยายพันธ์แก้วมังกรที่ง่ายและสะดวก คือการปักชำแต่มีเทคนิคที่สำคัญหลายประการคือ เกษตรกรต้องเลือกเฉพาะกิ่งที่แก่เท่านั้น อย่าใช้กิ่งอ่อนเพราะจะเน่าเสียก่อน เมื่อได้กิ่งแก่มาปักชำส่วนใหญ่จะรอดตาย 100% กิ่งแก่ในแต่ละกิ่งสามารถตัดเป็นท่อนได้หลายท่อน ตัดให้มีความยาวประมาณ 12 นิ้ว ก่อนที่จะปักชำให้เอาทางโคนปักลง (สังเกตจากทางโคนจะมีหนามตั้งขึ้น) ก่อนที่จะนำกิ่งมาปักชำ นั้น ควรจะนำกิ่งแก่มาจุ๋มในน้ำที่ผสมน้ำยาเร่งราก (ใช้น้ำยาเร่งรากในอัตราเข้มข้นกว่าปกติ)จุ๋มกิ่งแก้วมังกรลงไปในน้ำยาลึกประมาณ 10 ซม.แล้วนำมาตั้งเรียงไว้ในร่มเป็นเวลา 7-10 วัน จนกิ่งเริ่มเหี่ยว ตั้งกิ่งให้ตรง             สำหรับเกษตรกรที่เริ่มปลูกควรจะเลือกกิ่งประเภทนี้ที่ผ่านการแช่น้ำยาเร่งรากแล้ว เพราะจะสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายได้รับการกระทบกระเทือนน้อยที่สุดและขนได้ครั้งละปริมาณมาก หลังจากได้กิ่งไปแล้วนำไปปักชำในแปลงเพาะที่เตรียมเอาไว้           สำหรับกิ่งประเภทที่นำลงถุงแล้วจะเคลื่อนย้ายค่อนข้างลำบากและขน...